
สาเหตุที่ Google Ads ลบคำแนะนำกลุ่มเป้าหมาย
Google ได้ยกเลิกการแสดงฟีเจอร์คำแนะนำกลุ่มเป้าหมายในแท็บ Insights ของ Google Ads ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงคำแนะนำอัตโนมัติสำหรับการกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ชมเฉพาะได้อีกต่อไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อกลยุทธ์การโฆษณาของธุรกิจอย่างมากในอนาคต
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา Google ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการรายงานข้อมูลอีกครั้ง
Google ชี้แจงว่า “Audience Insights” ไม่ได้ถูกลบออก แต่ทีมงานรับทราบถึงปัญหาที่ทำให้การรายงานฟีเจอร์นี้หยุดแสดงในบางบัญชี และกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่
คำกล่าวนี้มาจาก Ginny Marvin ผู้ประสานงาน Google Ads ซึ่งได้ชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
การลบคำแนะนำกลุ่มเป้าหมายจากแท็บ Insights ของ Google Ads ถูกมองว่าอาจส่งผลต่อการวางแผนแคมเปญ อีกทั้งผู้ใช้งานที่เคยพึ่งพาคำแนะนำจากฟีเจอร์อัตโนมัตินี้จะต้องปรับตัวใช้วิธีวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมายด้วยตนเองมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้จะบังคับให้ผู้ใช้ต้องระบุและเลือกเซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง ซึ่งอาจเพิ่มเวลาในการปรับแต่งแคมเปญเองมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อนักการตลาดและผู้ลงโฆษณาที่ใช้งานโดยตรง
เหตุผลของการเปลี่ยนแปลง Google ไม่ได้ให้เหตุผลเฉพาะสำหรับการลบ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวไปสู่กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนโดยผู้ใช้และการปรับแต่งการกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ชมมากขึ้น
นักการตลาดและผู้ลงโฆษณาจำเป็นจะต้องทำงานด้วยตัวเองมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือและแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ยังคุ้นชินกับการใช้งานฟีเจอร์คำแนะนำอัตโนมัติ อาจต้องปรับตัวและเรียนรู้ให้เข้ากับกระบวนการทำงานที่ต้องลงมือทำด้วยตนเองมากขึ้น
สิ่งที่ Melissa Mackey ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลและผู้มีส่วนร่วมใน Search Engine Land กำลังชี้ให้เห็นคือ การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของ Google ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการทำงานของนักโฆษณา โดยเธอได้แสดงความคิดเห็นผ่าน X ว่า
“Google กำลังทำให้การทำงานของนักโฆษณายุ่งยากขึ้น เพื่อผลักดันให้พวกเขาใช้ AI ของ Google มากขึ้น นี่ถือเป็นข้อเสียที่สำคัญ Audience Insights เคยเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักโฆษณาเข้าใจว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ของพวกเขา แต่ตอนนี้เครื่องมือนี้กลับถูกยกเลิกไปแล้ว”
TBS Marketing เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการที่นักการตลาดดิจิทัลจัดการแคมเปญ Google Ads อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าในการปรับตัวและค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มีคำแนะนำอัตโนมัติให้ใช้งานอีกต่อไปก็ตาม
ผลกระทบต่อนักการตลาดและธุรกิจออนไลน์
การลบฟีเจอร์คำแนะนำกลุ่มเป้าหมายออกจาก Google Ads ส่งผลกระทบต่อนักการตลาดและธุรกิจออนไลน์ในหลายด้าน ดังนี้
1. เพิ่มภาระงานและเวลาให้นักการตลาด ที่จะต้องใช้เวลามากขึ้นในการวิเคราะห์และเลือกกลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะส่งผลให้การดำเนินการของแคมเปญใช้เวลานานขึ้น
2. นักการตลาดต้องมีทักษะและความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม เนื่องจากการขาดคำแนะนำจากฟีเจอร์อัตโนมัติหมายความว่าต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อสร้างกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
3. ในช่วงแรก การปรับตัวของนักการตลาดกับวิธีการใหม่ในการกำหนดเป้าหมายอาจทำให้ประสิทธิภาพของแคมเปญลดลงได้
4. ธุรกิจอาจต้องลงทุนในเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและปรับกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดอาจได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากการขาดความเชี่ยวชาญหรือเครื่องมือที่จำเป็นในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด
6. นักการตลาดอาจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดใหม่ทั้งหมด โดยเน้นความสำคัญไปที่การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าของตนเองมากขึ้น
7. การเปลี่ยนแปลงนี้อาจกลายเป็นโอกาสสำหรับนักการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เพราะสามารถใช้ทักษะดังกล่าวในการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งและทำให้กลยุทธ์การตลาดมีความโดดเด่นมากขึ้น
TBS Marketing เข้าใจถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้ และพร้อมที่จะให้คำแนะนำและสนับสนุนลูกค้าในการปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและใช้เครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อรักษาประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
วิธีปรับตัวและกลยุทธ์ใหม่สำหรับการโฆษณา
เมื่อ Google Ads ได้ลบฟีเจอร์คำแนะนำกลุ่มเป้าหมายออกไป นักการตลาดและธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ใหม่สำหรับการโฆษณาของธุรกิจตนเอง โดยวิธีการและกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้มีดังนี้
1. นักการตลาดควรพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้ เพื่อให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง
2. นักการตลาดควรลงทุนในเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ทันสมัย เช่น Google Analytics 4 หรือแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
3. นักการตลาดควรพัฒนาโปรไฟล์ลูกค้าในอุดมคติ (Buyer Persona) ที่มีรายละเอียดมากขึ้น โดยการใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น การสำรวจลูกค้า ข้อมูลการขาย และการวิเคราะห์คู่แข่ง
4. นักการตลาดควรทดลองกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย และวิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหากลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด
5. นักการตลาดควรเน้นการเก็บและใช้ประโยชน์จากข้อมูล First-party ของตนเอง เช่น ข้อมูลจากเว็บไซต์ อีเมล หรือแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
6. นักการตลาดควรสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้า
7. นักการตลาดควรใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและทำนายพฤติกรรมผู้บริโภค
8. นักการตลาดควรเน้นการทดสอบ A/B อย่างสม่ำเสมอกับโฆษณาและหน้าเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงคอนเวอร์ชันและประสิทธิภาพของแคมเปญ
9. นักการตลาดควรพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ ที่จะใช้ช่องทางการตลาดที่หลากหลายร่วมกัน เช่น SEO Content Marketing และ Social Media เพื่อเสริมประสิทธิภาพของแคมเปญ Google Ads
10. นักการตลาดควรติดตามและวิเคราะห์ผลอย่างสม่ำเสมอแลัะต่อเนื่อง และปรับกลยุทธ์ตามผลการวิเคราะห์ที่ได้
TBS Marketing เข้าใจถึงความท้าทายในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และเราพร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าในการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางเลือกอื่นในการระบุกลุ่มเป้าหมายสำหรับโฆษณา
เมื่อ Google Ads ไม่มีฟีเจอร์คำแนะนำกลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติ ส่งผลให้นักการตลาดและธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องหาทางเลือกอื่นในการระบุกลุ่มเป้าหมายสำหรับโฆษณา โดยวิธีการและเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้ทดแทน ได้แก่
1. การใช้ Google Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ ศึกษาพฤติกรรม ความสนใจ และข้อมูลทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้ เพื่อใช้ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
2. การใช้ Facebook Audience Insights ถึงแม้จะเป็นแพลตฟอร์มที่แตกต่าง แต่ Facebook Audience Insights นั้นสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแคมเปญ Google Ads ได้
3. การใช้ข้อมูล First-party หรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าที่มีการเก็บรวบรวมไว้แล้ว เช่น ข้อมูลจากระบบ CRM ฐานข้อมูลอีเมล หรือข้อมูลการซื้อขาย เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
4. การใช้เครื่องมือวิจัยตลาดตลาดออนไลน์ เช่น SurveyMonkey หรือ Google Surveys เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
5. การใช้แพลตฟอร์มเครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย เช่น Sprout Social หรือ Hootsuite Insights เพื่อเข้าใจความสนใจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายบนโซเชียลมีเดีย
6. การใช้ Google Trends เพื่อค้นหาหัวข้อและคำค้นหาที่กำลังเป็นกระแสในกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ
7. การใช้ข้อมูลการศึกษารายงานและการวิจัยจากองค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
8. การใช้เครื่องมือวิเคราะห์คู่แข่ง เช่น SEMrush หรือ Ahrefs เพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของคู่แข่ง และเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา
9. การใช้แพลตฟอร์ม Data Management (DMP) เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง และสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ
10. การสัมภาษณ์ลูกค้าหรือสนทนากลุ่มกับลูกค้าปัจจุบัน เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง
TBS Marketing เข้าใจถึงความสำคัญของการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องสำหรับแคมเปญโฆษณา เรามีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือและวิธีการต่างๆ เหล่านี้เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้การทำงานในสถานการณ์ที่ไม่มีฟีเจอร์คำแนะนำอัตโนมัติจาก Google Ads ก็ตาม เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณในการพัฒนากลยุทธ์การตลาด ทุกรูปแบบรวมถึง seo ในไทย อีกทั้งยังช่วยกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ