
ฟีเจอร์ใหม่ของ Performance Max สำหรับแบรนด์
Google กำลังเปิดตัวฟีเจอร์การตั้งค่าแนวทางแบรนด์สำหรับแคมเปญ Performance Max ซึ่งได้รับการประกาศครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้นักโฆษณาสามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ เช่น ชื่อธุรกิจ โลโก้ สี และฟอนต์ ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์แบรนด์ได้มากขึ้น
วิธีการทำงาน
นักโฆษณาสามารถปรับแต่งครีเอทีฟโฆษณาเพื่อให้ตรงกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานแล้วในบางบัญชี และกำลังเปิดให้ใช้งานในวงกว้างขึ้น ช่วยให้แบรนด์สามารถรักษาความสอดคล้องในทุกพื้นที่โฆษณาของ Google รวมถึง YouTube และการแสดงผลอื่นๆ
ทำไมเราจึงควรให้ความสนใจ
ฟีเจอร์ใหม่นี้เพิ่มการควบคุมว่าอัตลักษณ์ของแบรนด์จะถูกนำเสนออย่างไรในเครือข่ายโฆษณาของ Google ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญและเสริมสร้างความสอดคล้องกันของแบรนด์
ข้อควรระวัง
อาจพบความไม่สอดคล้องกันเล็กน้อยในเอกสารช่วยเหลือและการตั้งค่าในแอป โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้สีและฟอนต์ในโฆษณาบน YouTube และการแสดงผล
พบเห็นครั้งแรก
Dario Zannoni ผู้เชี่ยวชาญด้าน PPC ได้เผยฟังก์ชันนี้ในบัญชีของเขาผ่าน LinkedIn
สิ่งที่ควรจับตามอง
ติดตามว่า ฟีเจอร์นี้จะนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพที่วัดผลได้สำหรับนักโฆษณาที่ใช้งานแคมเปญ Performance Max หรือไม่
สรุป
ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้นักโฆษณาควบคุมการนำเสนอแบรนด์ได้ดีขึ้น Google กำลังยกระดับแคมเปญ Performance Max ให้เป็นแคมเปญที่มีความหลากหลายและปรับแต่งได้มากขึ้น
วิธีการปรับแต่งแบรนด์ในแคมเปญ
การปรับแต่งแบรนด์ในแคมเปญ Performance Max สามารถทำได้อย่างง่ายดายตามขั้นตอนดังนี้:
- เข้าสู่บัญชี Google Ads และเลือกแคมเปญ Performance Max ที่ต้องการปรับแต่ง
- คลิกที่แท็บ “การตั้งค่า” และไปที่ “แนวทางแบรนด์”
- คลิก “แก้ไข” เพื่อเริ่มการปรับแต่งองค์ประกอบแบรนด์ต่างๆ
- ปรับแต่งองค์ประกอบตามรายละเอียดดังนี้:
- โลโก้: อัปโหลดโลโก้ของแบรนด์ในรูปแบบต่างๆ เช่น แนวนอน แนวตั้ง หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส
- สี: เลือกสีหลักและสีรองที่ตรงกับอัตลักษณ์แบรนด์
- ฟอนต์: กำหนดฟอนต์สำหรับหัวเรื่องและเนื้อหา
- ชื่อธุรกิจ: ระบุชื่อธุรกิจที่ต้องการให้แสดงในโฆษณา
- หลังจากปรับแต่งเสร็จ ระบบจะแสดงตัวอย่างโฆษณาที่ใช้องค์ประกอบแบรนด์ที่คุณกำหนด ให้ตรวจสอบก่อนบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ข้อสำคัญ
การปรับแต่งแบรนด์นี้จะมีผลกับทุกรูปแบบโฆษณาใน Performance Max รวมถึงโฆษณาข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ แต่บางกรณีอาจมีข้อจำกัดในการใช้สีและฟอนต์กับโฆษณาวิดีโอบน YouTube
นักการตลาดควรทดลองตั้งค่าต่างๆ และติดตามผลลัพธ์เพื่อหาจุดที่เหมาะสมระหว่างความสอดคล้องของแบรนด์และประสิทธิภาพของแคมเปญ
ประโยชน์ของการใช้งานฟีเจอร์นี้
การใช้ฟีเจอร์การปรับแต่งแบรนด์ใน Performance Max มีประโยชน์หลายประการ เช่น:
- เพิ่มความสอดคล้องของแบรนด์: ช่วยให้ทุกโฆษณามีรูปลักษณ์และความรู้สึกที่สอดคล้องกัน ไม่ว่าจะแสดงบนแพลตฟอร์มใดของ Google
- สร้างการจดจำแบรนด์: องค์ประกอบแบรนด์ที่สม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: โฆษณาที่ออกแบบอย่างมืออาชีพช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ: โฆษณาที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งมักมีอัตราการคลิกและการมีส่วนร่วมสูงขึ้น
- ประหยัดเวลา: ตั้งค่าแบรนด์ครั้งเดียวแล้วใช้งานในทุกรูปแบบโฆษณา
- ความยืดหยุ่น: ทดสอบองค์ประกอบแบรนด์ที่แตกต่างกันเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
ประโยชน์สำหรับธุรกิจในประเทศไทย:
- การปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น: ใช้สีและฟอนต์ที่เหมาะสมกับผู้บริโภคไทย
- การแข่งขันในตลาดท้องถิ่น: แบรนด์ที่มีความสอดคล้องจะโดดเด่นในตลาดไทยที่มีการแข่งขันสูง
- รองรับภาษาไทย: ใช้ฟอนต์ภาษาไทยที่อ่านง่ายเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคชาวไทย
นักการตลาดควรทดสอบและปรับแต่งอย่างต่อเนื่องโดยใช้ข้อมูลจากแคมเปญเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์
กรณีศึกษาและผลลัพธ์จากแบรนด์ที่ใช้งาน
หลายแบรนด์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้ทดลองใช้ฟีเจอร์การปรับแต่งแบรนด์ใน Performance Max และได้รับผลลัพธ์ที่น่าสนใจ:
- ร้านอาหารไทยออนไลน์:
- อัตราการคลิกเพิ่มขึ้น 25%
- ยอดสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น 30%
- การรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น 15%
- แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก:
- ยอดขายออนไลน์ในไทยเพิ่มขึ้น 40%
- อัตราการมีส่วนร่วมกับโฆษณาเพิ่มขึ้น 50%
- ต้นทุนต่อการได้มาซึ่งลูกค้าลดลง 20%
- ผู้ให้บริการ E-commerce ในไทย:
- จำนวนผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้น 35%
- อัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้น 28%
- การรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น 20%
กรณีศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการใช้ฟีเจอร์การปรับแต่งแบรนด์ใน Performance Max สามารถส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของแคมเปญและการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อปรับให้เข้ากับตลาดท้องถิ่น
คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในประเทศไทย
การใช้ฟีเจอร์นี้ควบคู่กับกลยุทธ์ SEO ที่แข็งแกร่งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่สอดคล้องกันในช่องทางโฆษณาจ่ายเงินและการค้นหาออร์แกนิก ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดออนไลน์ไทยได้อย่างมีประสิทธิผล